กร่อนคำ..ถอดความ จากหนังสือ "กัมพูชากับสงครามล้างเผ่าพันธุ์ฯ" ... ( 9 ) ... [ เรท 18+ ]


บันทึกนี้ขอนำภาพประกอบหนังสือ บันทึกความทรงจำ กัมพูชากับสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และศูนย์อพยพในประเทศไทย ที่แสดงส่วนต่าง ๆ ของ Tuol Sleng หรือ S-21 มานำเสนอ

 

ซึ่งลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของ "ท่านปะแดง มหาบุญเรือง คัชมาย์" ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ครับ ... ผมเพียงต้องการนำเสนอเป็นภาพเท่านั้น

 

 

๙. 

 

Tuol Sleng หรือ โทลแสลง หรือ โตลเสลง ... จาก วิทยาลัย เป็น คุก

 

พิพิธภัณฑ์อุกฤตกรรมล้างเผ่าพันธุ์ โทลแสลง โทลแสลงเป็นชื่อของวิทยาลัยเทคนิคในกรุงพนมเปญ เขมรแดงใช้เป็นสถานที่สืบสวนสอบสวน และกระทำทารุณกรรมผู้เคราะห์ร้าย

 

 

คุกมืด กว้างประมาณ 80 ซม. ยาวประมาณ 180 ซม. สำหรับขังเดี่ยว ผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เป็นชนชั้นนายทุน หรือนายตำรวจ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ภายในห้องจะมีเพียงปีบ หรือกล่องกระสุนไว้เป็นส้วมสำหรับถ้วยชามใส่อาหารจะมีเพียงใบเดียว เป็นปิ่นโตหรือชาม เมื่อถึงเวลาให้อาหารจะเอามาเทให้ โดยไม่ต้องล้าง ไม่มีช้อนส้อมทั้งนั้น

 

 

บทวินัยโทลแสลง (จะแจ้งรายละเอียดในบันทึกต่อไปครับ : ผู้เขียนบันทึก)

 

 

ประชาชนชาวกัมพูชา ... จะจารึกและจดจำความเจ็บปวดอันแสนขมขื่น ที่นายพล พต และนายเอียง สารี ได้กระทำการล้างเผ่าพันธุ์ โดยมิอาจที่จะลืมได้ ตั้งอุดมการณ์อย่างแน่วแน่ว่า จะไม่ให้ระบอบล้างเผ่าพันธุ์นี้กลับมายังผืนแผ่นดินกัมพูชาอีก

 

 

แผนที่แสดงการขับไล่ โยกย้ายคนจากชุมชนหนึ่ง ไปยังทุ่งนา ในวันที่ 17 เมษายน 1975 (พ.ศ.2518) โดยให้ไปทำงานอย่างหนัก ขุดสระ ขนดิน ทำถนน ทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งนี้โดยแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ แยกย้ายกันไป กลุ่มคนแก่, กลุ่มหนุ่มสาว, กลุ่มแม่หม้าย และกลุ่มเด็ก

สำหรับแม่ลูกอ่อนจะถูกแยกออกจากลูก เด็กอ่อนจะถูกนำไปไว้ที่แห่งหนึ่ง โดยมีผู้เลี้ยงดูพอประทังไม่ให้ตาย หากมีการเจ็บป่วยไม่มีการรักษาจะปล่อยให้ตาย หรือฆ่าทิ้งเลย

 

 

กระโหลกของผู้เคราะห์ร้ายนำมาทำเป็นแผนที่ประเทศกัมพูชา ตั้งไว้ที่อาคาร 3 ชั้นล่าง

 

 

รูปภาพของผู้ใหญ่และเด็กที่ถูกนำมาขังและทำทารุณกรรมที่คุกโทลแสลง

 

 

เช่นเดียวกัน ชนชั้นนายทุน นายตำรวจ หรือนายทหารที่เคยขูดรีดประชาชน เมื่อทราบแน่ชัดแล้วจะทรมานอย่างทารุณโดยวิธีต่าง ๆ วิธีที่เห็นนี้คือ เอาคีบหนีบหัวนมจนเลือดไหล แล้วเอาตะขาบให้กัด หรือแมงป่องให้ต่อยทรมานให้เจ็บ จนสลบ จึงหามไปสังหาร

 

 

ตรวนสวมขาผู้เคราะห์ร้าย โดยจับขาผู้เคราะห์ร้ายสอดใส่ในตรวน อาจทั้งสองข้างหรือข้างเดียว แก้ผ้าให้เหลือแต่กางเกงตัวเดียว แล้วทุบตี กระทำทารุณต่าง ๆ

 

 

ชนชั้นนายทุน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่สืบทราบได้ว่า เคยกดขี่ประชาชน เมื่อสืบทราบจับมาได้ จะถูกทรมานอย่างทารุณ โดยผูกขาทั้งสองข้างโยงขึ้นแล้วปล่อยจุ่มที่ถังน้ำแค่จมูก

 

 

 

เครื่องมือในการกระทำทารุณกรรม ทิ่มแทง, ถอนเล็บ, ตอกลิ่ม, หนีบขมับ ฯลฯ

 

 

การทรมานผู้เคราะห์ร้าย หัวแข็ง หัวหมอ หรือ นายตำรวจ นายทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือนายทุน

 

 

นายตำรวจหรือนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ไม่ยอมตอบคำถาม หรือให้การ จะถูกขังเดี่ยว ให้ข้าวกินมีชีวิตอยู่จนผอมโซ โดยไม่ให้นุ่งเสื้อผ้า แล้วหามไปสอบสวน ก่อนนำไปสังหารที่เชิงแอก

 

 

 

 

คำคร่ำครวญ "แสนจะรันทดยิ่งนัก" จารึกที่ตะแลงแกงเชิงแอก

(จะมีคำแปลในบันทึกถัด ๆ ไป)

 

 

กระทำทารุณกรรมด้วยวิธีเฆี่ยนตี แล้วเอาขื่อหนีบแขน หนีบฝ่ามือแล้วถอนเล็บ

 

 

ภาพเด็กชายหญิงลูกหลานของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นำมาสืบสวนสอบสวนแล้ว นำไปสังหารที่ตะแลงแกงเชิงแอก

 

 

ตะแลงแกงเชิงแอก

 

 

ที่อาคารสถูป ชั้นล่างสุด เป็นที่รวบรวมเสื้อผ้าหญิงชายเด็กผู้ใหญ่ผู้เคราะห์ร้าย ก่อนถูกนำไปสังหารที่หลุมตะแลงแกง

 

 

อาคารเก็บหัวกระโหลกเป็นหมื่นกองพะเนินเทินทึก ตั้งเป็นชั้น ๆ ชั้นล่างสุดเป็นเสื้อผ้าของผู้เคราะห์ร้าย ในจำนวนนี้มีทั้งชาวต่างประเทศรวมอยู่ด้วย

 

 

หลุมศพ ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายเป็นเด็กหญิงมากกว่า 100 ศพ ส่วนใหญ่ไม่มีเสื้อผ้าหรือเครื่องนุ่งห่ม อนึ่งมีหลุมศพหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก เป็นที่รวมศพหญิงล้วน 400 กว่าศพ (ไม่มีเสื้อผ้า)

 

 

......................................................................................................................................

 

ความคิดเห็นส่วนตัว...

 

ภาพที่นำแสดงในบันทึกนี้เป็นไม่น่าเชื่อว่าเป็นความโหดร้ายของคนที่อยู่ชนชาติเดียวกัน "เขมรแดง"

ผู้วาดภาพเหล่านี้ คือ  1 ใน 7 คนที่รอดตายมาจากคุกโทลแสลงได้ เขาเป็นจิตรกร วาดภาพ เรื่องราวต่าง ๆ ตอนที่อยู่ในคุกนี้ หนีออกมาได้ตอนที่เวียดนามเข้ามาตีคืน

ส่วนหัวหน้าคุกโทลแสลง ชื่อ สหายดุ๊ก ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคคีของศาลอาชญากรสงครามของสหประชาชาติ

สหายดุ๊ก ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่า "เขาเพียงแต่ทำตามหน้าที่"

จำได้ว่า คุณสุทธิชัย หยุ่น เคยถามคำถามสุดท้ายกับจิตรกรผู้รอดชีวิตว่า หากคุณต้องยืนประจันหน้ากับสหายดุ๊กอีกครั้ง คุณจะพูดอะไรกับเขา

จิตรกรครุ่นคิดอย่างหนัก แล้วตอบว่า "คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร"

 

เราคงไม่ต้องรอคำตอบ การดำเนินคดีใกล้สิ้นสุดแล้ว

มนุษย์ฆ่ากันตายได้แค่ "คิดไม่เหมือนกัน"

คนไทยที่เป็นแบบนี้ ตอนนี้ จะว่ายังไง ฆ่ากันได้เลยหรือยังไง

 

 

โปรดติดตามเรื่องราวต่อไป

ขอบคุณครับ :)  

 

...................................................................................................................................

 

บันทึกที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

แหล่งอ้างอิง

ปะแดง มหาบุญเรือง คัชมาย์.  บันทึกความทรงจำ กัมพูชากับสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และศูนย์อพยพในประเทศไทย.  สุรินทร์: โรงพิมพ์รุ่งธนเกียรติออฟเซ็ท, 2543.

 

หมายเลขบันทึก: 316309เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 15:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)

ติดตามอ่านหลายตอนเเล้วครับ แต่บันทึกนี้ดูหวาดเสียวนะครับ ...

ผู้เข้ามาอ่านจำเป็นต้องมีสติอย่างยิ่งยวดครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ;)

นี่คือ ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริง ข้าง ๆ ประเทศไทย

จึงขอติด Rate 18+ เอาไว้ครับ และเฉพาะคนใน Gotoknow ก็พอ

  • นั่นสิคะหวาดเสียว และหดหู่
  • ไม่ค่อยชำนาญเรื่องประเภทนี้เลยค่ะ
  • แต่จะพยายามมาเรียนรู้จาก blog อาจารย์ละกันค่ะ

ไม่กล้าหยุดภาพเลยค่ะท่านอาจารย์

น่ากลัวจัง โหดร้ายมากนะคะ

จะเข้ามาอ่านก็กลัวๆกล้าๆน่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะอาจารยืเป็นการเตือนสติคนไทยว่ารักกันให้มากๆ อย่ามัวแต่คิดต่อว่าให้กัน..ใส่สี...กัน..

ขออภัยด้วยครับ น้องอาจารย์ พิชชา ;)...

ท่องไว้ว่ามันเป็นประวัติศาสตร์จริง ๆ ของมนุษยชาติครับ

อ่านและดูเพื่อการเรียนรู้ แต่อย่าเอาใจเข้ามาจับมากเกินไป

จะทำให้เครียดมากครับ

ขอบคุณมากครับ ;)

คุณ บุญนาค ฮายีมา ครับ ;)

ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร ... ยังมีหลายประวัติศาสตร์ที่น่าสะพรึงกลัวกว่านี้ครับ ขนาดผมยังไม่กล้าดูเลย ...

แต่ที่มานำเสนอนี้ ยังเป็นแค่วิธีการเท่านั้นครับ

เรียนรู้นะครับ ทำใจให้สบาย ๆ ;)

นั่นคือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นกับหัวใจคนไทยครับ คุณ rinda ;)

ทำสิ่งใดไตร่ตรองให้ดี ๆ อย่าไปเป็นเครื่องมือพวกนักการเมืองที่พร้อมจะกลับมาทำร้ายเราได้ทุกเมื่อ หากเขาประสบความสำเร็จ

มันเป็นเรื่องของกรรมครับ เราทำอะไรวันนี้ ผลกรรมจะตอบสนองเราเช่นกัน

ขอให้เชื่อเรื่องกรรมเถอะครับ ;)

สวัสดีครับ อาจารย์เบื้องหลังที่ถูกค้นพบของการต่อสู้ ล้วนโหดร้าย ทารุณ ทุกกรณีย์

เห็นตัวอย่างแล้ว เรายังตั้งหน้าก่อสงครามกันเองจะสร้างประวัติของความโหดร้ายกันไปถึงไหน..........รำพึงครับ

ขอบคุณครับ ท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า ... เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ครับ

สำหรับคนที่มัวเมาลาภ ยศ สรรเสริญ ยุยงให้เขาฆ่ากัน เพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์ น่ารังเกียจที่สุดคนแบบนี้

มีคนถามว่า เราไร้การศึกษากันขนาดนั้นหรือ หรือว่า คนมีการศึกษากันแน่ที่เป็นคนทำ มีการศึกษา แต่ไร้คุณธรรม จริยธรรม ;(

สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปทักทายพี่เกดค่ะ สงสารล้างเผ่าพันธ์กำพูชา เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง น่าสนใจ ขอบคุณบันทึกนี้ค่ะ

Dsc04915

สุขสันต์วันศุกร์ค่ะ

ยินดีและขอบคุณครับ พี่พยาบาล เกด เกศนี บุณยวัฒนางกุล ;)

นี่คือมนุษย์จริง ๆ ครับพี่ ???

แวะมาทักทายค่ะ

เป็นน้องใหม่ และเป็นครูมัธยมคนใหม่ค่ะ

ที่นี่ค่ะ

พระเอกในวรรณคดี

มาตามนัดค่ะอาจารย์

ได้ความรู้อีกมากค่ะ

ได้รู้ได้เห็นจากบันทึกของอาจารย์นี่เอง

โหดร้ายจริงๆค่ะ

ยินดีที่คุณครูจุฑารัตน์ NU 11  เข้ามาตามนัดครับ ;)

For Only You ครับ อิ อิ

ตัดสินอยู่พอสมควรอยู่ว่าจะเข้ามาอ่านดีไหม

ไม่ผิดหวังที่เข้าอ่านค่ะ ได้ kmมากขึ้นค่ะ

ขอบคุณค่ะ

แหม ติดเรทไว้สำหรับเด็กอายุ 18 ปีขึ้นไปครับ

นึกว่าตัดสินใจไม่ได้เพราะอายุไม่ถึง 18 อิ อิ

ขอบคุณครับ น้อง berger0123 ที่แวะมาเยือน ;)

สวัสดีค่ะ อ.วัต

อ่านซ้ำอีก มันโหดร้ายมากๆ จะฆ่าก็ไม่ฆ่า ต้องทรมานแล้วถึงฆ่า มันยิ่งกว่าตกนรกขุน17

จะรออ่านอีกค่ะ

ขอบคุณมากค่ะที่เขียนแนวประวัติศาสตร์ที่ทำให้คนไทยตื่นตัวค่ะ

ว่าแต่ถ้าคนอายุน้อยกว่า18 อยากอ่านล่ะ อ.วัต

รูปเอามาจากไหนค่ะ ถ่ายมาจากหนังสือใช่ไหมค่ะ

ครับ น้อง berger0123 ;)...

ติดเรทไว้ให้พิจารณาก่อนเข้ามาเท่านั้นเองครับ หากคิดว่า มีสติ วุฒิภาวะ ก็เข้ามาอ่านเอาความรู้ได้

หนังสือเล่มนี้ครับ ไม่มีขายปัจจุบัน อาจจะต้องยืมจากห้องสมุดหรือไม่ก็ร้านหนังสือเก่า ครับ

ขอบคุณครับ ;)

สวัสดี ครับ

ขึ้นชื่อว่า...สงครามแล้ว เลวร้ายเหมือนกัน

ต่างกันตรงที่....จะฆ่ากันด้วยวิธีไหน....

เลือดร้อน...หรือเลือดเย็น

ก็สุดโต่ง....พอกัน

ผมเลยรู้ครับว่า..

บันทึกแบบนี้....อาการใจสั่นของอาจารย์เป็นเช่นไร

ใช่ครับ คุณ แสงแห่งความดี ... อ่านแล้วไม่อยากจำ ไม่อยากรับรู้

แต่ที่ต้องเขียน เพื่อแสดงบทเรียนประวัติศาสตร์ที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

และไม่อยากให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

มันเจ็บปวดพอแล้วครับ ;)

เจ็บปวดกับเรื่องราวในอดีตแล้วยังต้องมาหวั่นวิตกกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน..

ชีวิตคนเรานี่น้อ...ไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์จะทำกันได้ลงคอ..

น่ากลัวจริงๆ.......

บทเรียนที่พึงระลึกถึงในปัจจุบันด้วยครับ หากไม่พึงระวัง อาจจะมีเหตุการณ์แบบนี้กับบุคคลที่ถูกเชิดให้เกลียดกันได้ครับ

ขอบคุณครับ คุณ Gto ;)

เป็นเรื่องราวที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับชาติพันธ์มนุษย์เลย น่าสลดใจยิ่งนัก

ขอบคุณครับ คุณ rattanajan ที่ได้มาเยี่ยมเยือนบันทึกนี้ ;)

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท