กร่อนคำ..ถอดความ จากหนังสือ "กัมพูชากับสงครามล้างเผ่าพันธุ์ฯ" ... ( 11 )


บันทึกนี้ขอนำ คำคร่ำครวญ "แสนจะรันทดยิ่งนัก" จารึกที่ตะแลงแกงเชิงแอก มาขยายความต่อจากบันทึก กร่อนคำ..ถอดความ จากหนังสือ "กัมพูชากับสงครามล้างเผ่าพันธุ์ฯ" ... ( 10 )

 

คำแปลเป็นของ "ท่านปะแดง มหาบุญเรือง คัชมาย์" ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เช่นเดิมครับ ...

 

 

๑๑. 

 

คำคร่ำครวญ "แสนจะรัดทดยิ่งนัก" จารึกที่ตะแลงแกงเชิงแอก

 

 

 

คร่ำครวญ 

 

(คำแปล) ... (ชาวโลก) แสนรันทดหดหู่ในมโนภาพ ที่ประจักษ์นี้

 

แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมาถึง 20 ศตวรรษแล้วก็ตาม เหนือผืนแผ่นดินกัมพูชานี้ มนุษย์ผู้กักขระหยาบช้าอย่างนายพล พต ไปปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยวิธีการโหดร้ายทารุณสุดวิสัยที่จะพึงพรรณนา เป็นการฆ่าและกระทำทารุณกรรมอย่างมีระบบ โหดเหี้ยมกว่า ฟาซีสต์ ฮิตเลอร์อีก ที่มวลมนุษย์ไม่เคยพบเห็น

ดูเถิดอาคารสถูปเจดีย์ ที่ได้สร้างไว้เพื่อเป็นเครื่องรำลึกเบื้องหน้านี้ ประหนึ่งว่าเรากำลัได้ยินเสียงร้องไห้โหยหวล สะอึกสะอื้นร้องระงมไปทั่วตะแลงแกงเชิงแอก ของผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมที่กำลังถูกนายพล พต ทุบตีด้วยตะบอง โคนไม้ไผ่หรือด้วยสันจอบ ทิ่มแทงด้วยมีด หรือหอกดาบ ดูประหนึ่งว่า เรากำลังเห็นภาพผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกกระทำทารุณกรรมอย่างน่าเวทนา ไร้ความเมตตาปรานีต่อผู้มีเพียงหนังหุ้มกระดูก และแล้วเขาเหล่านั้นก็ถูกฆ่าตายโดยมิได้สั่งลาเพียงญาติมิตรแม้แต่คำเดียว ผู้ที่ถูกสังหารทั้งหมดนี้ เขาระทมขมขื่นเจ็บช้ำเพียงไร เมื่อเห็นภาพเขากำลังจับเอาลูกหลาน ผัวเมีย พี่น้องอันเป็นที่รักถูกจับมัดไขว้หลังก่อนนำไปสังหาร และก่อนที่จะถึงวาระของตนที่จะถูกฆ่าตาย เช่นเดียวกันนั้น

วิธีสังหารโหดมนุษย์ที่ผู้มนุษย์กักขระอย่างนายพล พต ได้ปฏิบัติต่อประชาชนกัมพูชาผู้สุจริต มิสามารถจพรรณนาให้เห็นภาพที่เป็นจริงได้ ทั้งนี้โดย วิธีการสังหารโหดอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เป็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดที่สุดที่เราจะกำหนดได้ว่า พวกมันเหล่านั้นเป็นอย่างไร เพราะพวกมันนั้นก็มีรูปร่างเป็นมนุษย์ แต่จิตและวิญญาณของพวกมันนั้นเป็นภูตผีปีศาจ พวกมันมีรูปร่างหน้าตาเป็นชนชาติกัมพูชา แต่พฤติกรรมของมันนั้นเหนือตัวเลขอธิบาย พวกมันต้องการที่จะนำหรือเปลี่ยนแปลงกัมพูชานี้ไปสู่ความมืดของมันด้วยความมืดมิดโง่เขลาเบาปัญญา พวกมันได้อบรมสั่งสอนล้างสมองเด็ก เยาวชนที่มีดวงใจสะอาดบริสุทธิ์ สุภาพเรียบร้อย ให้กลายเป็นผู้มีจิตใจอำมหิตโหดร้าย กล้าฆ่าล้างสังหารผู้บริสุทธิ์ และแม้แต่บิดามารดาและญาติวงศาโลหิตของตนเองได้ พวกมันได้เผาทำลายโรงเรียน โรงพยาบาล และวัดวาอาราม พร้อมก้มรอคำสั่งจากองค์การให้ทำลายปรางค์ปราสาทอันสวยงาม เช่น นครวัดของชาติ เป็นต้น ซึ่งเป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาติอันบริสุทธิ์ และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เป็นแหล่งเพาะปัญญาของชาติ พวกมันได้พยายามทุกวิถีทางในการทำลายล้างให้สิ้นไป ซึ่งครรลองแห่งพฤติจรรยาของชาติเขมร แล้วในประเทศกัมพูชาก็กลายเป็นทะเลเลือด และน้ำตา โดยทำลายสิ้นซึ่งทำนบเขื่อนแห่งวัฒนธรรม อารยธรรม และเอกลักษณ์ของชาติไปสู่แดนรโหฐานแห่งวินาศกรรม และผลักดันให้สังคมแห่งชาติกัมพูชาถอยหลังไปนับสิบ ๆ ปีฯ

 

 

......................................................................................................................................

 

ความคิดเห็นส่วนตัว...

 

คำคร่ำครวญ เป็นตัวแทนของชาวกัมพูชาผู้สูญเสีย

เขียนขึ้นเพื่อจดจำ อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกเลยในประเทศกัมพูชา

แต่ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยอยู่เสมอ มนุษย์ผู้ชั่วช้าไม่เคยจดจำ

วัฒนธรรมแห่งการเกลียดชังลามไปทั่วภูมิภาค

 

แม้แต่ไทยเอง ก็มีคนบางกลุ่มพยายามจะสร้างให้เกิดขึ้น

เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแค่นั้นเอง

 

ชาติไทยคงมีไว้ขาย อยากได้คืนเมื่อไหร่ ก็ใช้เงินซื้อคืนเอา กระมัง

 

โปรดติดตามเรื่องราวต่อไป

ขอบคุณครับ :)  

 

...................................................................................................................................

 

บันทึกที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

แหล่งอ้างอิง

ปะแดง มหาบุญเรือง คัชมาย์.  บันทึกความทรงจำ กัมพูชากับสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และศูนย์อพยพในประเทศไทย.  สุรินทร์: โรงพิมพ์รุ่งธนเกียรติออฟเซ็ท, 2543.

 

หมายเลขบันทึก: 322186เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2009 16:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

พวกมันได้อบรมสั่งสอนล้างสมองเด็ก เยาวชนที่มีดวงใจสะอาดบริสุทธิ์ สุภาพเรียบร้อย ให้กลายเป็นผู้มีจิตใจอำมหิตโหดร้าย กล้าฆ่าล้างสังหารผู้บริสุทธิ์ และ

แม้แต่บิดามารดาและญาติวงศาโลหิตของตนเองได้ พวกมันได้เผาทำลายโรงเรียน โรงพยาบาล และวัดวาอาราม พร้อมก้มรอคำสั่งจากองค์การให้ทำลายปรางค์ปราสาทอันสวยงาม เช่น นครวัดของชาติ เป็นต้น ซึ่งเป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาติอันบริสุทธิ์ และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เป็นแหล่งเพาะปัญญาของชาติ พวกมันได้พยายามทุกวิถีทางในการทำลายล้างให้สิ้นไป ซึ่งครรลองแห่งพฤติจรรยาของชาติเขมร แล้วในประเทศกัมพูชาก็กลายเป็นทะเลเลือด และน้ำตา โดยทำลายสิ้นซึ่งทำนบเขื่อนแห่งวัฒนธรรม อารยธรรม และเอกลักษณ์ของชาติไปสู่แดนรโหฐานแห่งวินาศกรรม และผลักดันให้สังคมแห่งชาติกัมพูชาถอยหลังไปนับสิบ ๆ ปีฯ

บอกตรงๆว่ารู้สึกสะเทือนใจค่ะ เด็กโดนสอน โดยปลูกฝังตั้งแต่เล็กให้กลายเป็นคนโหดร้ายทารุณ

แล้วคนกัมพูชาเค้าไม่มีศาสนาในจิตใจหรือค่ะ

ตอบน้อง berger0123 ว่า ... เขามีครับ และนับถือพุทธศาสนาเช่นเดียวกับบ้านเรา แต่ในสมัยที่พล พต เรืองอำนาจ เขามีความคิดที่ต่างจากคอมมิวนิสต์แบบเวียดนาม หรือเผด็จการอื่น ๆ แต่เขามีวิธีคิดแบบของเขาเอง แบบเขมรแดง ที่ฝ่ายตรงข้าม นายทุน นักวิชาการ หมอ ทุกคนต้องตายไปก่อน แล้วเขาจะเลือกสร้างสังคมใหม่ ให้เป็นสังคมเกษตรกรรมครับ เกษตรกรรมแบบพล พต ผลก็คือ มีคนตายถึง 3 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดในสมัยนั้น คือ 7 ล้านคน ครับ

แต่ที่น่าสนใจจนถึงทุกวันนี้ คือ เขาสามารถล้างสมองเด็ก เยาวชนเหล่านั้นได้อย่างไรกัน ให้เชื่อเขาแต่เพียงผู้เดียว

คล้าย ๆ ของไทยปัจจุบันไหมครับ ... น่าคิดนะครับ

ศรัทธาซาตาน ซาตานก็ทำลายตัวเอง

เป็นห่วงประเทศไทยจัง สารพัดปัญหา ทั้งปัญหาการเมือง ปัญหาสังคม ปัญหาศีลธรรม ปัญหาเศรษฐกิจ คิดแล้วกลุ้ม

อย่าเคร่งเครียดกับเรื่องราวที่ไม่ดี ๆ มากเกินไปเลยครับ จะทำให้คุณ แก้ว ไม่สบายไปเสียเปล่า ๆ ... เราลองมองแง่หาสิ่งดี ๆ กันดีกว่าครับ

ผมนำบันทึกนี้มานำเสนอเพื่อเตือนให้พึงระวังเท่านั้นเอง

ผู้มีปัญญาย่อมรู้ว่านี่คืออะไร ส่วนผู้ที่หลงใหลกับความคิดแต่ของตนเอง พูดยังไงก็คงไม่รับฟังและไม่ยอมเข้าใจ

ขอบคุณมากครับ คุณ แก้ว ที่มาเยือน ยิ้ม ๆ ครับ ;)

เรามาทำความดีกันนะครับ

แวะมาทักทายส่งสุขช่วงท้ายปีค่ะ

Happy Happy Happy New Year 2009 เช่นกันครับ น้องอาจารย์ พิชชา ;)

ตอบน้อง berger0123 ว่า ... เขามีครับ และนับถือพุทธศาสนาเช่นเดียวกับบ้านเรา แต่ในสมัยที่พล พต เรืองอำนาจ เขามีความคิดที่ต่างจากคอมมิวนิสต์แบบเวียดนาม หรือเผด็จการอื่น ๆ แต่เขามีวิธีคิดแบบของเขาเอง แบบเขมรแดง ที่ฝ่ายตรงข้าม นายทุน นักวิชาการ หมอ ทุกคนต้องตายไปก่อน แล้วเขาจะเลือกสร้างสังคมใหม่ ให้เป็นสังคมเกษตรกรรมครับ เกษตรกรรมแบบพล พต ผลก็คือ มีคนตายถึง 3 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดในสมัยนั้น คือ 7 ล้านคน ครับ

แต่ที่น่าสนใจจนถึงทุกวันนี้ คือ เขาสามารถล้างสมองเด็ก เยาวชนเหล่านั้นได้อย่างไรกัน ให้เชื่อเขาแต่เพียงผู้เดียว

คล้าย ๆ ของไทยปัจจุบันไหมครับ ... น่าคิดนะครับ

ศรัทธาซาตาน ซาตานก็ทำลายตัวเอง

มีผู้นำที่แย่และทำลายชาติบ้านเมือง ทำลายได้แม้กระทั่งเด็ก ที่เค้าทำลาย หมอ นักวิชาการ เพื่อจะได้ไม่ให้มีใครฉลาดไปกว่าเค้า โคตรโหดสุด...

 

อำนาจมืด ฆ่าล้างเผ่าพันธ์กันได้เลยค่ะ

ในเมืองไทย มีกลุ่มคนที่เป็นแบบเขมรค่ะ พยายามใช้อิทธิและอำนาจทางการเงิน มาครอบงำใจคน

ให้หลงผิด มาอยู่ฝ่ายตน แล้วก็ปลุกระดมทางสื่อเพื่อเพิ่มกระแสความแรง

จะหยุดมันได้ยังไงเนี่ย...

คนทำชั่ว ย่อมแพ้ภัยตัวเองครับ ... ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

อย่าไปเครียดมากเกินไป ทำดีทุกวัน ให้ชีวิตเรามีความสุขก่อนครับ

ขอบคุณครับ น้อง berger0123 ;)

นึกถึงตอนที่เอาเด็กเป็นโล่กำบัง เห็นภาพตอนที่สอนเด็กใช้อาวุธ มันเกิดกับไทย

ครับ น้อง berger0123 ได้เห็นภาพนั้นจากภาพข่าวเช่นกันครับ น่าเวทนามาก

ขอบคุณครับ ;)

ยินดีได้เจออ.ก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ มีความสุขนะคะ นำมาฝากหลาวเด้อเจ้า ;)

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ :))

ยินดีและขอบคุณครับ คุณ aonaja ;)...

ไม่น่าเชื่อว่า ยังคงทันสมัยและประวัติศาสตร์ยังซ้ำรอยไม่เสื่อมคลาย

ก่อนอิ่มรำเที่ยงวันค่ะอ. เสือ

เมื่อไหร่จะสงบซะทีนะชายแดน สงสารประชาชี ...

แล้วจะรอติดตามอ่านเรื่อง ลึก ลับ ลวง หลุม มุมมองแปลก

มาทายทักและยินดีที่ได้ใช้จ่ายเวลากับหญิงสุดที่รักนะคะ :)

กำลังจะเตรียมตัวแบกแพคไปเขมรเพื่อสิ่งนี้เหมือนกันค่ะ คิดเหมือนกันกับเจ้าของบล็อคนะคะ ว่าสงครามเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่เราควรเรียนรู้ไว้ :)) ยังไงจะคอยติดตามเนื้อหาในบล๊อคนี้นะคะ ไว้มีโอกาสคงได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันบ้างนะคะ

เป็นเรื่องราวที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับชาติพันธ์มนุษย์เลย น่าสลดใจยิ่งนัก

ประวัติศาสตร์ที่ยืดเยื้อของกัมพูชาที่ต้องการดินแดนเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ พร้อมกับพลังอำนาจของฮุนเซนที่เป็นเจ้าประเทศ ไม่ว่าใครตาย ฮุนเซนก็ได้ประโยชน์มากที่สุด

ขอบคุณครับ คุณ poo ;)

ขอบคุณมากครับ คุณ aonaja ;)... คงได้แลกเปลี่ยนกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท