ครูสร้างค่าย..เด็กสร้างครู : เรียนรู้


บางเวลาครูก็ต้องให้เด็กเป็นผู้สอน

ค่ายในปีแรกนี้มีสมาชิกราวสี่สิบคน
จัดระบบให้อยู่กันเป็นบ้าน..ที่มีพี่และน้องต่างวัยอยู่ด้วยกัน
รับผิดชอบจัดบ้าน ดูแลบ้าน ทำกิจกรรมร่วมกัน
ทุกวันต้องบันทึกเรื่องราวที่ได้เรียนรู้ของตนเอง

ด้วยโต๊ะเก้าอี้สนามเพียงหนึ่งชุด
พื้นที่ในห้องประชุมถูกจัดแบ่งด้วยชั้นวางของและเชือกฟางอย่างง่ายๆ
สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของบ้าน ให้บรรดาคนตัวเล็กทั้งหลายได้ช่วยกันตกแต่ง
บ้างช่วยกันยกต้นไม้  บ้างเอาตุ๊กตาของตัวเองมาวางในแต่ละมุม
บ้างเขียนป้ายบอกข้อตกลงของบ้าน
บ้างปีนป่ายไปแขวนประดาสิ่งของที่เจ้าตัวมองแล้วว่าสวย
ทั้งช่วยกันปัดกวาด เช็ดถู อยู่เป็นประจำ

ซึ่งเมื่อเฝ้ามองก็ได้เห็นวิธีคิด วิธีอยู่กับผู้อื่น ผ่านกิจวัตรในแต่ละวัน
เป็นงานให้ครู ค่อยปรับเปลี่ยน และสอนให้เรียนรู้
กว่าห้าสัปดาห์ที่ครูและเด็กได้อยู่ร่วมกัน..ก่อให้เกิดความสัมพันธ์
และนำสู่การเปลี่ยนแปลงอันน่าสนใจ

ชีวิตในค่ายเริ่มต้นด้วยเสียงเพลงและภาษาอังกฤษยามเช้า
ก่อนจะเข้าสู่กิจกรรมประจำสัปดาห์ตามเรื่องราวที่กำหนด
ระยะเริ่มแรก สังเกต เรียนรู้ กันอยู่ในโรงเรียน
บางวันเดินทางข้ามจังหวัด สู่ขุมทรัพย์ทางปัญญาในป่าใหญ่
ให้ได้เห็นและสัมผัสกับป่ายามแล้ง ร้อน 
ก่อนจะเข้าสู่บริเวณชุ่มน้ำจากเหมืองฝายแม้ว

บางวันไปศึกษาวิถีชุมชน  ก่อนนำผลมาอภิปราย
บางวันสุขสบายกับการเรียนด้วยคอมพิวเตอร์อยู่ในห้องปรับอากาศ
บางวันไปจ่ายตลาดมาทำกับข้าว
บางวันเป็นเรื่องราวของการลงมือจัดสวน
บางวันชวนกันนั่งรถ ไปดูเส้นทางของสายน้ำ
จนได้รับความแปลกใจกับต้นไม้ผิดธรรมชาติที่บังเอิญได้พบเห็น

ยังไม่นับการเล่นกีฬา พากันมาลีลาศ และเรียนรู้วิชาการเป่าขลุ่ย


เป็นการเปิดโลกกว้างแห่งการเรียนรู้ ให้ทั้งครูและเด็ก
เป็นการเรียนรู้ ที่มีความสุข สนุกสนาน ผสานกับการได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ในชีวิต
เป็นงานที่ครูต้องเตรียมการ และทำงานในรูปแบบที่แตกต่างออกไป
ด้วยไม่ใช่เป็นเพียงผู้ให้ความรู้ แต่เป็นทั้งผู้ช่วยเหลือ ผู้ร่วมเรียนรู้
และบางเวลาครูก็ต้องให้เด็กเป็นผู้สอน

ด้วยความมุ่งหมายให้เกิดการเรียนรู้จากการทำงานในค่าย
งานจึงดำเนินไปด้วยบรรยากาศการเป็นครูให้แก่กันและกัน
เกือบทุกวันในสัปดาห์แรก..เป็นการประชุมเพื่อติดตามผล
และลดความกังวลในการปฏิบัติงานของมือใหม่

จนค่อยๆ ลดความถี่ลงไป  เมื่อทีมมั่นใจมากขึ้น

เป็นหน้าที่ของครูใหญ่ที่จะสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งด้วยการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
และการนำภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกไว้ มาใช้เป็นบทเรียน

ทำแบบนี้ดี.. สังเกตดูปฏิกิริยาของเด็กสิ
พูดแบบนี้ดี..ไม่ใช่การตำหนิแต่เป็นการบอกให้รู้ถึงสิ่งที่จะพัฒนา
ตอนนี้เราเปิดโอกาสให้เด็กคิดเอง หรือเป็นการชี้นำของครู
ตอนนี้น่าจะเติมในส่วนของความรู้ให้มากขึ้น
ลองหัดใช้คำถามที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้มากๆ
ตอนนี้พูดเร็วไป  พูดเบาไป  พูดเสียงไม่ชัด..หรือเปล่า
อยากให้ถ่ายภาพแบบถ่ายทอดเรื่องราว และกระบวนการที่เกิดขึ้นนะ
ไม่รู้เลยว่า..มีความสามารถแบบนี้ด้วย..เจ๋งๆ
เออดีแฮะ..คิดแบบนี้ได้ยังไง
ไว้ใจน่ะ..เชื่อสิว่า..เด็กทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด
ต้องเชื่อว่า..เราทำได้..สู้..สู้..นะ  เอ้า..ลุย..

การประชุม..จึงเป็นเวลาของการเล่าปัญหาและร่วมกันหาวิธีแก้ไข
ทำอย่างไร..กับเด็กที่ก้าวร้าว...เด็กที่ไม่ชอบทำตามกฎเกณฑ์
เด็กที่ไม่กล้าพูด..ไม่กล้าแสดง..เด็กที่ไม่ค่อยแบ่งปัน
ตรงนี้ยังทำไม่ได้อย่างที่วางแผน..เรื่องนี้เจอโดยไม่ได้คิดมาก่อน..
ปัญหาในเรื่องเล็กน้อย..จนถึงปัญหาที่ต้องวางแผนแก้ไขกันเป็นทีม

การประชุม..ยังเป็นช่วงเวลาบอกเล่าความก้าวหน้า เรื่องราวขบขัน และ สิ่งดีๆ ที่พบเจอ
เป็นช่วงเวลาแห่งการชี้ชวนให้เห็นความงดงามที่มองเห็นได้ด้วยใจอันละเอียดอ่อน...

ภาพของครูที่นั่งเรียนรู้วิธีเป่าขลุ่ยไปพร้อมกับเด็ก
ภาพของเจ้าตัวเล็กที่มุ่งมั่นร่วมกันทำงานให้สำเร็จ
ภาพรอยยิ้มอิ่มเอมใจ ยามได้รับการยกย่อง
แววตาที่มองอย่างสนใจใคร่รู้..และอีกมากมาย

เป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างความเชื่อมั่น ในการใช้ความรัก ความเมตตา ความเข้าใจ
และใช้อารมณ์ขันในการแก้ไข พัฒนาเด็ก

เป็นช่วงเวลาแห่งการชี้ชวนให้ครูสังเกต และเฝ้ามองความเติบโตในใจของตนเอง

การประชุม ปรึกษาหารือยังเกิดขึ้นนอกรอบ..ยามตั้งวงส้มตำ..
ยามรุมสกรัมกับการเตรียมอุปกรณ์
ยามพักผ่อนหลังเลิกงาน..ยามประสานความร่วมมือในเรื่องต่างๆ

การประชุม..จึงไม่ใช่ช่วงเวลาของการตำหนิและกล่าวโทษ
ไม่มีใครต้องรับผิด..ด้วยต่างร่วมกันลงมือทำ
ไม่มีใครเป็นเจ้าของความสำเร็จ..ด้วยต่างร่วมกันลงมือทำ
เราต่างรับทั้งปัญหาที่มีไว้ให้แก้ไข  รับความภูมิใจ..ความสุข..ร่วมกัน

โอกาสในการเรียนรู้ของครูเกิดขึ้น ในเวลาที่ไม่ถูกกดดันด้วยความคาดหวังจากผู้ปกครอง
ต่างเข้าใจและเห็นด้วยกับวิธีการเรียนรู้ที่ผ่อนคลาย
ไม่ต้องเอาเป็นเอาตายกับการทำแบบฝึกหัดในตำรา
เป็นโอกาสที่ได้ฝึกฝนตนเอง ท่ามกลางการเอาใจช่วยจากเพื่อนครู
ทั้งที่อยู่ในทีมและต่างทีม
แม้ต้องรับผิดชอบงานที่แปลกใหม่  แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือแนะนำจาก เพื่อน พี่ น้อง
ทั้งยังไม่ต้องรับภาระกับจำนวนเด็กที่มากเกินกำลัง
เป็นช่วงเวลาเหมาะแก่การทดลองและเรียนรู้

ห้าสัปดาห์จึงผ่านไป..ด้วยการลงมือทำงานตามแผนที่วางไว้
แก้ไข..ปรับเปลี่ยน..ตามปัญหาและสถานการณ์
ผสานกับการเรียนรู้ผ่านการประชุม  การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
บางวันได้ตระหนักรู้จากการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
บางวันก็ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ และเพื่อนครู

จนเข้าสู่วันปิดค่าย...
เด็กๆ แสดงความสามารถได้เกินความคาดหมาย..
เด็กชายที่มากด้วยความสามารถด้านดนตรี แต่ไม่มีความเชื่อมั่น
กล้าออกมายืนหน้าชั้นอย่างมั่นใจ
เด็กที่ไม่กล้าแสดงออก ลีลาศกับเพื่อนอย่างสวยงาม
เด็กที่ก้าวร้าวอย่างยิ่ง..อ่อนโยนลง และพูดจาไพเราะมากขึ้น
เด็กทุกคนร่วมเป่าขลุ่ย สลับกับเสียงร้องเพลงอย่างตั้งใจ ทั้งที่ฝึกฝนกันได้ไม่นานนัก

ดวงใจของครูและผู้ปกครองจึงเบ่งบาน..ด้วยความปลาบปลื้ม...

 

 

 

ติดตามอ่านเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่อง ได้ที่..

ครูสร้างค่าย..เด็กสร้างครู : เตรียมการ
ครูสร้างค่าย..เด็กสร้างครู : เรียนรู้
ครูสร้างค่าย..เด็กสร้างครู : ความเปลี่ยนแปลง
ครูสร้างค่าย..เด็กสร้างครู : พัฒนาต่อเนื่อง

วิเคราะห์ "ครูสร้างค่าย..เด็กสร้างครู"  : โดย คุณบางทราย(คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)P

หมายเลขบันทึก: 187092เขียนเมื่อ 9 มิถุนายน 2008 15:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

คำเตือน:  เพื่อสุขภาพ  โปรดอย่าเขียนเกินวันละ 2 บันทึก  อิอิ

 

สวัสดีครับ

  • ดีจังเลยนะครับ
  • ครูและนักเรียนตั้งใจดีมาก ๆ
  • บรรยากาศดีครับ
  • อยากไปค่ายนี้จัง
  • คงมีความสุขและอบอุ่นน่าดู
  • ของคุณที่นำเรื่องดี ๆ มาฝาก ครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณครูอึ่ง ขา  คนชอบวิ่ง ถนัดตั้งวงส้มตำเจ้าค่ะ 55555

  • คุณครูที่ฉลาด ควรยอมให้เด็กสอน ที่จริงก็ไม่เชิงใช้คำว่าเด็กสอน ในความเป็นจริง ครูที่เปิดใจจัชะได้เรียนอะไรๆจากเด็กมากมาย
  • เราสอนเด็ก แต่ไม่รู้จักตัวเด็ก จิตใจ ความรู้สึกนึกคิดเด็ก จะน่าเสียดายจุดสำคัญนี้ ถ้าจัดการได้ จะเห็นผลลัพธ์

        - เด็กชอบครู

        - เด็กเชื่อฟังครู

        - เด็กเคารพครู

        - เด็กรักครู

         - เด็กศรัทธาครู

  •  ถ้าเกิดตรงนี้ บรรยากาศการเรียนจะก้าวหน้า ปัญหาน้อย นอกจากไม่ดื้อแล้ว เด็กจะร่วมมือทุกอย่าง ซึ่งครูมงคลวิทยาล้วนทำได้ดีอยู่แล้ว
  • หมายเหตุ  รางวัลค่าชมไม่ต้องส่งมา ฝากกินดอกเบี้ยไว้ก่อน อิอิ
  • พรุ่งนี้จะส่งไข่ไก่ต๊อกไปให้ครูอาราม ลองชวนเด็กๆฟักดู
  • อาจจะฝากแม่ไก่ฟักก็ได้
  • ทำรายการจดบันทึกง่าย
  • วาดรูป เล่าเรื่องจากความรู้สึก
  • เพื่อจะบอกว่า ..กิจกรรมพิเศษ สามารถจัดได้เสมอ
  • ในระหว่างรอจัดค่ายฤดูร้อน ก็จัดค่ายรายสัปดาห์ รายเดือนได้
  • มงคลวิทยาทำอยู่แล้ว เผลอไปแนะนำสังฆราช โธ่ๆๆๆ

 

ทำค้างให้น้ำเต้าแล้ว อีก2เดือนลูกโตงเตง

  • เด็กและครูเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
  • ดูจากภาพเห็นการเรียนรู้ค่ะ

P

คำเตือน:  เพื่อป้องกันการถูกทวงการบ้าน  โปรดเขียนเกินวันละ 2 บันทึก  อิอิ

P

ครูโย่งคะ..ยินดีต้อนรับสู่ทีมค่ายคะ..ครูดนตรียังเป็นที่ต้องการ..^^

P

สวัสดีค่ะพี่นิด..มาพร้อมกับของโปรดเสียด้วย..งั่มๆๆ..อยากกินส้มตำ...

 P

  • หมายเหตุ  รางวัลค่าชมไม่ต้องส่งมา ฝากกินดอกเบี้ยไว้ก่อน อิอิ
  • พ่อครูบาคะ..

    • สงสัยว่าพ่อครูท่าจะได้ดอกเบี้ยบาน..ก็ยิ้มกริ่มก้นไปทั้งโรงเรียนแล้วค่ะ
    • อยากเห็นน้ำเต้าจริงๆ อยากรู้ว่าจะลูกยักษ์ขนาดไหน..
    • ขอบพระคุณใน..แนวคิดด้วยค่ะ

    P

    สวัสดีค่ะอาจารย์

    วันนี้มาเยี่ยมเด็กๆ นะคะ..ค่ายนี้ทั้งสนุกและเหนื่อยค่ะ  แต่คุณครูก็ได้เรียนรู้มากจริงๆ

    ขอบคุณที่แวะมานะคะ

    • สวัสดีครับครูอึ่ง
    • เยียมมากครับ
    • ผมเคยคิดเล่นๆ เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วตอนไปเป็นครูอาสาฯ อยู่ที่เชียงใหม่ เสียงกระซิบจากครูไม่ใหญ่ ตอนที่ 1 : โรงเรียนอยู่ไหน..? (มีหลายตอน)
    • ตอนนั้นผมคิดได้ว่า แท้จริงแล้วในชวิตจริงเด็กๆ ก็ได้เรียนรู้กันอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน
    • แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด กาลต่อมาเราจึงได้แยกระหว่างการเรียนรู้กับชีวิตจริงออกจากกัน
    • เด็กชาวเขาที่ผมได้เคยสัมผัส  เขาเก่งมากในการเอาตัวรอด  สามารถดำรงค์ชีวิตได้อย่างมีความสุข และพึ่งพาตนเองได้(หาของป่า  ปลูกข้าว  ตำข้าว  หาพลังงาน  ฯลฯ) พวกเราต่างหากที่ไม่ค่อยจะมีความรู้และความสามารถที่แท้จริงเลย  คือสรุปแล้วสู้เด็กไม่ได้เลย
    • เพียงแต่...ตัวชี้วัดจากคนนอกบางตัวต่างหาก(ขอย้ำว่าบางตัวชี้วัดเท่านั้น)ที่เราใช้ตัดสินเขาเหล่านั้นว่าเป็นอย่างไร   แล้วก็กำหนดว่าเขาจะต้องพัฒนา.....? เช่น การไม่รู้หนังสือ  ปัญหาทางสุขภาวะ ฯ อันนี้เห็นด้วย แต่มีบางตัวที่เหมือนดาบสองคม คือ  การวัดด้วยรายได้ต่อหัว ประเด็นนี้อันตรายมาก น่าจะวัดด้วยความสุขด้วยจึงจะครอบคลุมกว่า สุดท้ายผลก็ออกมาอย่างที่เราเห็น คนส่วนใหญ่จึงพึ่งพาตนเองไม่ได้
    • อ่านบันทึกนี้แล้วดีใจที่ได้เห็นกระบวนการเรียนรู้ที่ผ่อนคลาย และอิงอยู่กับวิถีชีวิต และสังคมรอบข้าง  ที่โรงเรียนของครูอึ่งได้จัดให้แก่เด็กๆ
    • ขอชื่นชมและให้กำลังใจครับ

    P

    น้องสิงห์ป่าสักเจ้า

    • ตามไปอ่านเรื่องเสียงกระซิบจากครูไม่ใหญ่..แล้ว ได้อารมณ์ความรู้สึกหลากรสนะคะ
    • สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นคือ ประสบการณ์บนเส้นทางชีวิตของแต่ละคน เป็นสิ่งที่มีค่ามากจริงๆ  ทั้งช่วยหล่อหลอมและทำให้ได้รู้จักชีวิต ได้รู้จักโลกมากขึ้น
    • ชีวิตมีเรื่องราวให้เรียนรู้มากจริงๆ ค่ะ  สิ่งที่ดีสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง อาจยังไม่เหมาะสำหรับคนอีกกลุ่มหนึ่ง  ความรู้ในการดำรงชีวิตจึงต้องมีหลากหลาย
    • โลกเปลี่ยนไปทุกวันนะคะ..เรื่องราวที่ต้องเรียนรู้ก็มีมากขึ้นทุกวัน  ผู้ใหญ่ทั้งหลายก็พยายามสรรหาสิ่งที่คิดว่าดี มาให้เด็กต้องเรียน  มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องพยายามเอาเข้ามาเป็นบทเรียนในหลักสูตร ทั้งเด็กและครูก็เลยต้องเหน็ดเหนื่อยไปตามๆ กัน
    • พ่อแม่ ก็อยากจะให้สิ่งดีๆ แก่ลูก บางคนก็ใช้วิธีปลอดภัยไว้ก่อน ให้เรียนด้านความรู้เยอะๆ เข้าไว้ ใช้ในชีวิตจริงได้หรือไม่ ไม่สำคัญขอให้เกรดสวย สอบเข้าเรียนต่อได้ก่อน
    • ที่โรงเรียนพี่ พยายามจะให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เรื่องราวของชีวิต เรื่องของประสบการณ์ ควบคู่ไปกับวิชาการ  มีตรงไหนที่จะคิดได้ ทำได้ ก็พยายามทำแบบนี้แหละค่ะ
    • แต่บางที ภาพที่คนมองกลายเป็นว่า เป็นโรงเรียนที่ไม่เน้นวิชาการ..อิ..อิ.. บางทีก็แอบแย้งไปบ้างเหมือนกันว่า นี่แหละ วิชาการสุดๆ  สอนทั้งวิธีหาความรู้ ทั้งตัวความรู้ และให้ฝึกใช้ความรู้  เชียวนา..  แถมยังอบรมบ่มนิสัยให้อีก..^^
    • เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะต้องสอนให้เด็กพึ่งพาตัวเองได้  เลือกรับสิ่งที่เหมาะสม และรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อสังคม  ประโยคเหล่านี้เขียนสั้นนิดเดียว  แต่เวลาทำมีรายละเอียดมากมาย ต้องมีทีมที่มีใจ ต้องใช้เวลาเรียนรู้กันอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ และ นาน กว่าจะเห็นผล
    • ปลูกต้นไม้ ยังใช้เวลาตั้งนานกว่าจะโตและให้ผล  นี่คนเนาะ..
    • อ้าว..เลยตอบเสียยาว
    • ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่นำมาให้เรียนรู้ร่วมกันนะคะ

    สวัสดีค่ะ

    * ยิ่งตามลึกยิ่งมันค่ะ.....

    * เด็ก ๆ ร่วมเตรียมค่ายด้วย...ทำให้เขาเรียนรู้ได้มากกว่าเข้าร่วมกิจกรรม.....สุดยอดเลยค่ะ

    อยากอวดบ้างค่ะ....ครูสร้างค่ายนักเรียนสร้างครูมาทำค่าย...ภาพนี้ค่ายสัมมนาเยาวชน" เยาวชนก้าวหน้าพัฒนาตนเอง.....ยามเย็นน้องกลับบ้านแล้วพี่ๆ ...ฝึกกิจกรรมเพื่อหาเงินทุน.....ภาพนี้ออกเรื่อยไรที่ตลาดนัดข้างโรงเรียนค่ะ

    จากนั้นก็กิจกรรมสร้างสรรค์และแบ่งปันค่ะ......ของเล่นและของฝากในมือน้องๆ เด็กช่วยกันทำค่ะ

    สุดท้ายก็ภาพความภาคภูมิใจของเขาที่ค่ายสำเร็จและผ่านไปด้วยดี

    P

    สวัสดีค่ะ อ.พรรณา

    • ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปันนะคะ
    • ชอบใจชุดเสื้อเกราะนักรบที่ทำจากกระดาษหนังสือพิมพ์มาก..เยี่ยมๆๆ..ดูแล้วน่าสนใจและเรียกรอยยิ้มได้..555..
    • เป็นค่ายของเด็กชั้นไหนคะ
    • ความสำเร็จ และ ความภูมิใจของคุณครูทั้งหลาย ก็อยู่ตรงที่เห็นเด็กคิดได้ ทำได้ ด้วยตัวเองนี่และนะคะ
    • ขอชื่นชมอาจารย์จริงๆ ค่ะ
    • การประชุม..จึงไม่ใช่ช่วงเวลาของการตำหนิและกล่าวโทษ
    • อยากให้การประชุมแถวนี้มีบรรยากาศแบบนี้บ้างค่ะพี่อึ่ง
    • ชื่นชมกับกิจกรรมดีๆของครูและศิษย์ที่มงคลวิทยานะคะ
    • การตำหนิและกล่าวโทษ..ได้แต่ความเป็นพวกเธอ พวกฉัน แต่ไม่ได้ความเป็น เรา ค่ะ
    • แต่บางทีเราก็พลัดหลงไปในบรรยากาศที่ไม่มีเรากันเท่าใด
    • สู้ๆ นะคะน้องอ๊อด
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท