อาจจะเป็นเพราะครูไม่ช่างพูด อธิบายไม่เก่ง และเป็นคนขี้เบื่อ จึงทำให้ครูพยายามที่จะทำสื่อโน้นสื่อนี้เปลี่ยนรูปแบบการสอนอยู่ตลอดเวลา บางครั้งนักเรียนยังติดใจวิธีการหรือรูปแบบนั้นอยู่แต่ครูเบื่อแล้วนี่ ครูไม่อยากสอนแล้ว ครูจะใช้วิธีการอื่นอีกแล้ว ครูจึงเหนื่อยแล้วเหนื่อยอีกอยู่เช่นนี้
เบื้องต้นก่อนถึงยุคเบ่งบานของเทคโนโลยีที่เรียกว่าไอที (ครูขอใช้คำว่าเบ่งบาน เพราะมันคงจะเฉาในวันใดวันหนึ่ง) ครูก็จะมีเกมที่ทำด้วยกระดาษอย่างง่าย ๆ หรือชุดการสอนที่บรรจุในซองจดหมายราชการ แต่เมื่อวันหนึ่งลูกศิษย์ได้ล่อลวงครูให้ได้รู้จักกับเว็บบอร์ดที่สนุกดอทคอมในปี๒๕๔๒ และรู้จักกับเพื่อนใหม่ชื่อไอซีคิว ครูได้ปลดปล่อยแสดงแสนยานุภาพที่เก็บกดคือการเล่นกลอนสดบนกระดานข่าว และหลงระเริงไปอยู่บ้านนายขวดพักหนึ่งในนามของหมูอ้วน และด้วยนิสัยที่มีจินตนาการคิดสร้างสรรค์ไม่สิ้นสุดผนวกกับความรู้เรื่องบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ได้รับถ่ายทอดจาก ครูไผ่ ศน.จาก กทม.คิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีห้องเรียนทางอินเตอร์เน็ตชื่อว่า "ห้องเรียนสีชมพูของครูหมูอ้วน"ให้ได้ ปี ๒๕๔๓ ครูก็ได้มีห้องเรียนสีชมพูสมใจ
แต่ห้องเรียนของครูขณะนั้นคือเว็บบอร์ดของ http://board.dserver.org ซึ่งครูใช้ว่า http://board.dserver.org/p/plearn/ ซึ่งมาจาก play&learn เมื่อครูให้นักเรียนเรียนเรื่องการเขียนร้อยกรองจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน CAI ที่ได้ผลิตขึ้นนักเรียนไม่มีที่ที่จะนำเสนอผลงาน ครูจึงให้นักเรียนนำเสนอผลงานการเขียนลงกระดานข่าวที่ชื่อห้องเรียน สีชมพูขณะนั้น ดร.ไพจิตร สดวกการมาเห็นเข้าก็นำไปเขียนเป็นบทความ เกิดข้อค้นพบและกรณีศึกษาของหลายองค์กรทั้ง สกศ. งานวิจัยร่วมกับนานาชาติเรื่องนวัตกรรมการเรียนรู้โดยใช้ไอที โมดูล๒ ของสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ สสวท. กรมวิชาการ การประชุมวิชาการของยูเนสโกที่ กทม. และAcen
จากจุดเริ่มต้นแบบงู ๆ ปลา ๆ ของครูภาษาไทย ที่ใส่ใจ ICT เมื่อเกิดคุณค่าต่อคนอื่น ๆ เช่นนั้น ก็ฝันต่ออีกต้องการจะได้อะไรมากกว่ากระดานข่าว ให้เด็กได้ทดสอบตัวเอง ให้มีข้อสอบออนไลน์ ให้มีแฟ้มสะสมงานออนไลน์ที่ผู้ใช้งานต้องมีเลขประจำอยู่ในฐานข้อมูลโรงเรียน มีกระดานโหวตผลงาน ฝันสารพัดฝัน ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่มีความรู้อะไรมากนัก เพื่อนร่วมงานก็สานฝันให้จนมีสิ่งต่าง ๆสมปรารถนาในเบื้องต้นแต่เมื่อนำไปใช้ก็เกิดปัญหาอีกนั่นล่ะ ปัญหามาจากการที่ครูคิดอะไรไม่ครบระบบ ครูคิดฝันไปทีละนิด ๆ พอเพื่อนสนองให้ครูก็ฝันต่ออีก แต่เรื่องของเทคโนโลยีนี่มันต้องฝันให้จบกระบวนการ การดำเนินการมันจึงจะง่าย เพราะการปรับแก้นั้นยากยิ่ง
ปี ๒๕๔๔ ห้องเรียนสีชมพู เป็นโฮมเพจที่มีเนื้อหา ความรู้ภาษาไทยและแบบทดสอบ ม.๑ มันน่าจะลงตัวตามฝันแล้วนะแต่ยังหรอก อย่างนั้นไม่ใช่ภาทิพ เมื่อนักเรียนทำแบบทดสอบออนไลน์ หลายคนสอบตก ต้องใช้การสอบหลาย ๆ ครั้งจึงผ่านคิดต่ออีกล่ะสิ ทำอย่างไรให้เด็กเหล่านี้ได้ทบทวนความรู้ก่อนสอบ ก็บังเอิญไปพบกับเว็บของปริศนาคำทาย http://www.thaifolk.com/doc/riddle.htm ใช่เลยสิ่งที่ต้องการ แอบดูview source เซฟลงมาแล้วก็ใช้ Front page Express เข้าแทนที่ซะเลย และก็เริ่มต้นใช้Dremweaver เข้าร่วมด้วยช่วยกัน เกิดเป็นแบบฝึกหัดออนไลน์ชื่อว่า คิดก่อนคลิก นำเสนอเรื่องต่าง ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เกิดผลประโยชน์กับคนในวงกว้างทั้งครู นักเรียนและผู้สนใจทั่วไป หลังจากนั้นก็พยายามเติมเต็มอัพเดทอย่างต่อเนื่องเกือบจะทุกวันเพียงเห็นใครมาเขียนชื่นชมที่สมุดเยี่ยมก็เกิดพลังมหาศาลแล้ว ความบังเอิญก็เกิดขึ้นอีกมีโอกาสไปพบข้อสอบออนไลน์ที่ไม่ต้องใช้ฐานข้อมูลของสมาชิก เป็นแบบทดสอบของอ.ไตรรัตน์ เชื้อทองพิทักษ์ ร.ร.กันทรารมณ์ จ.ศรีสะเกษ ก็แอบดูview source แล้วก็ทำเป็นโครงร่างไว้แทนที่ข้อสอบเรื่องต่าง ๆ โอ้โฮ! มีผู้สนใจเข้ามาใช้บริการทั้งแบบทดสอบออนไลน์ และแบบฝึกหัดออนไลน์มากมาย คนบ้ายอก็แสดงอาการชัดเจน หลงใหลได้ปลื้มกับคำนิยมในสมุดเยี่ยม จัดทำเนื้อหา เพิ่มจาก ม. ๑ สู่ ม.๒ ม.๓ ตามความเรียกร้องของผู้ใช้บริการ ถึงขั้นตั้งเป้าว่าห้องเรียนสีชมพูจะต้องเป็นแหล่งเรียนรู้ภาษาไทยที่สมบูรณ์ที่สุดว่าเข้าไปนั่น ก็อ่านหนังสือจัดทำเนื้อหาเพิ่มเติม พิมพ์ไม่ไหวก็จ้างลูกจ้างบ้าง ใช้เงินส่วนตัวนี่ล่ะ (บ้ามั้ยล่ะ) ให้นักเรียนทำเป็นชิ้นงาน โครงงานบ้าง ที่จริงก็น่าจะหยุดนิ่งได้แล้วน่ะ เป็นโฮมเพจภาษาไทย ที่มีความรู้ ตั้งแต่ช่วงชั้น ๓- ๔ แล้วนี่ แต่ปัญหามันก็ยังมีอยู่นี่นา จะหยุดได้ไงล่ะ?
ปี ๒๕๔๘ ห้องเรียนสีชมพูมี E-Learning ปัญหาและความต้องการเกิดจากครูไม่สามารถควบคุมการสอบออนไลน์ของนักเรียนได้ข้อสอบนี้หมายถึงข้อสอบออนไลน์ที่ไม่ต้องใช้ฐานข้อมูลซึ่งครูนำมาใช้ในภายหลัง เมื่อนักเรียนสอบพอเห็นว่าคะแนนน้อย และเห็นว่าข้อไหนยังผิดอยู่ก็กลับไปแก้ไข ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่ความรู้จริง เป็นความรู้ที่เกิดจากความฉลาดแกมโกง เช่นใครหลาย ๆ คนในยุคนี้ ครูต้องการตัวควบคุมการสอบการทำงานของนักเรียน ที่สำคัญต้องการข้อสอบแบบเติมคำ แต่ครูไม่มีความสามารถในการเขียนโปรแกรม จะเรียนก็ช้าแล้วล่ะ ลักไก่แบบครูพักลักจำพอน่ะพอได้ ขณะเดินผ่านหน้าห้องน้องผู้ดูแลระบบseverของโรงเรียนพี่ดูนี่สิ ครูก็วิ่งรี่ไปทันทีรู้กันว่าอะไรใหม่มา ครูคว้าหมด น้องเขาก็ให้ดูความสามารถของ Thai Moodle สุดยอดแค่ครูได้เห็นก็น้ำลายไหลเลยล่ะ (ก็ต้องการมานานแล้วนี่นา) น้องเขาสาธิตการใช้ประมาณ ๑๕ นาที แล้วก็ให้คู่มือที่จัดทำโดย อ.วิมลลักษณ์ สิงหนาท มา ๑ เล่ม พร้อมกับให้ Admin มาด้วย มาถึงก็เปิดวิชาต่าง ๆ ทันที ภาษาไทย ม.๑ ภาษาไทย ม.๒ ชุมนุมแต่งกลอนออนไลน์ ครูสนุกล่ะ เพราะ Thai Moodle มีอะไรมากมายตามที่ใจปรารถนา แบบทดสอบก็มีสารพัดรูปแบบ ใช้ง่ายจริง ๆ ในความสนุกตื่นเต้นของครู แต่ในมุมมองของเด็กสมัยใหม่ที่ขาดความอดทนอาจจะดูว่ายุ่งยากก็ได้นะ เมื่อทดลองใช้ ระบบการควบคุมข้อมูลต่าง ๆ ดีจริง ๆ จะใช้และรู้คนเดียวได้ไง ภูมิใจคนเดียว เป็นปลื้มคนเดียวสนุกที่ไหนกันล่ะ
ว่าแล้วก็นำไปขยายกับงานแข่งขันทักษะทางวิชาการของเขตพื้นที่ขอดำเนินการแข่งขันเขียนสะกดคำให้กับช่วงชั้นที่ ๑ และ ๒ คุณครูจากระดับประถมเป็นผู้ออกข้อสอบ ครูทำหน้าที่พิมพ์ทำคลังข้อสอบไว้ กรรมการมาเลือกก่อนดำเนินการสอบไม่กี่นาที บรรยากาศการแข่งขันสุดยอด เพราะเป็นครั้งแรกที่ใช้E- Learning แข่งขันทักษะ กรรมการทุกคนลุ้นตัวโก่ง ลุ้นให้ลูก ๆ นักเรียนตัวน้อย ๆ จับเมาส์เป็น คลิกเป็น ซึ่งเป็นบรรยากาศของการเรียนรู้ การแสดงความสามารถมากกว่าการแข่งขัน ไม่มีภาพกรรมการขี้โกง กรรมการลำเอียงให้เห็น กรรมการตื่นเต้นกับคะแนนของลูก ๆ ทุกคน บอกได้คำเดียวว้า E-Learningของ Thai Moodle เยี่ยมมาก ต้องการพิสูจน์มั้ยล่ะเชิญที่นี่ได้เลยค่ะ http://www.st.ac.th/bhatips/ ครูยินดีต้อนรับและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ
ผมได้รับความรู้มากขึ้น ได้แนวคิดที่หลากหลายในการเข้าชมห้องเรียนสีชมพูของคุณครู
สมกับเป็น GURU ภาษาไทย ขอขอบคุณมากครับ
ผมมาหาความรู้เกี่ยวกับภาษาไทยของครูภาทิพ อีกแล้วครับจึงแจ้งให้ทราบและขอบคุณครูภาทิพด้วย
ทำไมไม่มีคำพังเพยเลย
เสียดายจัง
สวัสดีค่ะ ขอโทษคุณสกุลและครูสุพรรณบุรีที่ไม่ได้เข้ามาทักทาย
ส่วนหนูฟ้า คงจะมาผิดที่ วิธีการหาสำนวนสุภาษิตก็คือ พิมพ์ สุภาษิต ลงใน google ก็จะมาตรึม หรือไม่ก็ไปที่หน้าห้องเรียนสีชมพู ก็จะเจอลิงค์ที่ทำไว้ให้
ห้องเรียนสีชมพู คลิกเลย
ภาษาไทยภาษาทอง คลิกเลย
ประสบการณ์จากห้องเรียนของครูภาทิพ
ภาษาพาสาร ผ่านดาร กับภาทิพ