โดยเฉพาะคนนี้
คุณเคยคิดว่าอยากมีคำนำหน้าชื่อบ้างไหมคะ เช่น ดอกเตอร์สมชาย ไงคะ ไม่ใช่ค่ะไม่ได้แปลว่าคุณหมอ แต่อยากมาชวนคุณๆเรียนต่อปริญญาเอก จากคราวที่แล้วเราพึ่งรับปริญญามาหมาดๆใน Graduate: ปริญญาหรือจะใช่ใบเบิกทาง ช่วงนี้เป็นช่วงนาทีทอง สถาบันการศึกษาหลายๆแห่งกำลังรับสมัครนักศึกษาไปเรียนต่อกันไหมคะ แต่เอคนที่จะเข้าเรียนได้ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง 1) เรียนดีกีฬาเด่น 2)เป็นคนดัง 3) มีสตางค์ ใช่หรือเปล่า ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะว่าจะเรียนไม่ไหว คุณคงเคยได้ยินวลี จ่ายครบจบแน่ มาบ้างแล้ว ความยากง่าย เรียนจบหรือไม่จบน่าจะอยู่ที่ความตั้งใจและความพยายามของเรานะคะ
แต่ที่น่ากลัวกว่าคือจะเลือกเรียนที่ไหนเรียนอย่างไรต่างหากเพราะ “สังคมไทยในยามที่ปริญญาเอกถูกใช้เป็นเครื่องยกฐานานุภาพในสังคม ไม่ว่าปริญญานั้นจะมี "น้ำยา" แค่ไหนก็ตาม มีแง่มุมที่น่าสนใจให้คิด ที่ต้องเขียนในเชิงว่าปริญญาเอกนั้นมี "น้ำยา" ไม่เท่ากัน ก็เพราะมันเป็นความจริง เช่นเดียวกับที่โลกมีพระอาทิตย์ส่องแสงและให้ความร้อนทุกวัน หลายโครงการปริญญาเอกเมดอินไทยแลนด์ในปัจจุบันขาดคุณภาพเพราะเน้น ปริมาณของผู้เรียน บางโครงการโฆษณาราวกับขายน้ำปลา และก็มีคนแห่กันไปลงทะเบียนเรียนเพราะหวังในไตเติ้ลดอกเตอร์ข้างหน้าอย่างง่ายๆ ใครจะไปรู้ถ้าให้ทุกคนจ่ายเงินค่าเล่าเรียนทั้งหมดได้ในวันนี้และรับปริญญาเอกไปเลย เกือบทั้งหมดอาจพร้อมใจกันจ่ายเงินเพราะอยากได้ฐานานุภาพของปริญญาเอกโดยไม่สนใจคุณภาพก็เป็นได้...ไตเติ้ลดอกเตอร์สำคัญแค่ไหนกันเชียว คำตอบก็คือสำคัญอยู่มากในสังคม "หลอกง่าย" เช่นสังคมไทย ไม่เชื่อดูป้ายหาเสียงของ ส.ว.ครั้งนี้ดูก็ได้ มีทั้งดอกเตอร์กิตติมศักดิ์ที่ทำให้เหมือนดอกเตอร์จริง มีทั้งยังไม่ได้ดอกเตอร์แต่ขอใช้ไตเติ้ลไปก่อน มีทั้งดอกเตอร์ประเภทซื้อมา และมีทั้งดอกเตอร์ของจริง ถ้ามันไม่สำคัญคงไม่มีการใช้ไตเติ้ลกันเกร่อเป็นแน่ ไตเติ้ลดอกเตอร์ก็คือการสื่อสารอย่างหนึ่งให้ผู้คนรู้ว่าตนเป็นคนฉลาด เก่ง และเป็นคนดีด้วย (ผิดพลาดตรงนี้เพราะดอกเตอร์เลวๆ มีอยู่ไม่น้อยในสังคมไทย) การได้ไตเติ้ลนี้มาจึงเท่ากับเป็นการสร้างความสามารถในการสื่อสารดังกล่าวแก่สังคมไทย ” ("อนิจจา...ท่านดอกเตอร์" : โดย รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ข้อความข้างบนอ่านแล้วเห็นด้วยมากๆคลิกเข้าไปอ่านแบบเต็มๆได้เลยค่ะ)
การเรียนปริญญาเอกมีสถานศึกษาให้เลือกเรียนหลากหลายทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชน มีทั้งแบบภาคปรกติ เรียนวันธรรมดาภาคพิเศษ เรียนเสาร์-อาทิตย์ หรือตอนเย็น หลายแห่งไม่มีการสอบเข้า แต่ส่วนใหญ่มีการสอบออกค่ะคุณ อ้าวคุณคะ อย่าคิดว่าเข้าเรียนง่ายแล้วจะจบง่ายไปทุกที่สิคะ ถึงนาทีนั้นขึ้นอยู่กับตัวคุณเองละค่ะว่ามานะบากบั่นเพียงไหน ลองอ่านเรื่องข้างล่างดูนะคะ
“กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้สำรวจจำนวนนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษา (สูงกว่าปริญญาตรี) ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน ปีการศึกษา 2549 พบว่า จำนวนนักศึกษาปริญญาเอกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปีการศึกษา 2545 มี 6,213 คน ปีการศึกษา 2546 มี 7,715 คน ปีการศึกษา 2547 มี 8,264 คน ปีการศึกษา 2549 มี 10,516 คน ปีการศึกษา 2549 มี 13,959 คน
ในอดีต นักศึกษาปริญญาเอกในประเทศไทยมีไม่มากนัก เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรปริญญาเอกไม่กี่แห่ง แต่ละแห่งรับนักศึกษารุ่นละไม่เกิน 5 คน เพราะการจะเปิดการสอนในระดับนี้ได้ จะต้องใช้ทรัพยากรในการจัดการศึกษามาก ซึ่งมีมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งที่มีความพร้อม เมื่อเทียบกับปัจจุบัน มหาวิทยาลัยที่เปิดหลักสูตรระดับปริญญาเอกมีมากขึ้น โดยปีการศึกษา 2549 มีมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนเปิดหลักสูตรปริญญาเอกจำนวน 53 แห่ง ....มีนักวิชาการได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงเรื่องคุณภาพการศึกษา เกรงว่าจะเข้าข่าย “จ่ายครบจบง่าย” เนื่องจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งเปิดสอนปริญญาเอกทั้งภาคปกติ ภาคพิเศษ ซ้ำยังย่นเวลาเรียนให้สั้นลง เน้นทฤษฎีมากกว่าการวิจัย และไม่จำกัดจำนวนนักศึกษา อาทิ ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์กรมหาชน) หรือ สมศ. แสดงความเห็นว่าการศึกษาปริญญาเอกของไทยขยายตัวเร็วไป ปริมาณมาก่อนคุณภาพ คือ รับนักศึกษารุ่นละ 40-50 คน หรือไม่จำกัด มักจ้างศาสตราจารย์เกษียณ หรือใกล้เกษียณเป็นประธานหลักสูตร มีอาจารย์ที่ปรึกษาเพียง 4-5 คน อาจารย์ 1 คน ต้องให้คำปรึกษานักศึกษาหลายสิบคน จึงไม่สามารถลงลึกในด้านวิชาการได้ เข้าข่ายหลักสูตรที่ผลิตดอกเตอร์กล้วย ที่ รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รมช. ศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ให้ความหมายว่า เป็นดอกเตอร์ที่ทำวิทยานิพนธ์ครั้งเดียว เหมือนกล้วย ออกดอกผลไม่กี่ครั้งแล้วรอวันตาย…บัณฑิตปริญญาเอกล้นตลาดแรงงาน ในแต่ละปีมีผู้ที่ศึกษาต่อระดับปริญญาเอกเพิ่มมากขึ้น หากไม่มีการควบคุมปริมาณ อาจเกิดภาวะบัณฑิตระดับปริญญาเอกล้นตลาดแรงงานได้ ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นกับประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะแต่ละปี สหรัฐฯ ผลิตบัณฑิตปริญญาเอกมากกว่า 4 หมื่นคน แต่พบว่า บัณฑิตเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่มีงานทำ นอกนั้น ไม่ยอมทำงานที่ต่ำกว่าวุฒิการศึกษาจึงตกงานค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบัณฑิตปริญญาเอกสาขาศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ และสาขาสังคมวิทยา ซึ่งกว่าร้อยละ 90 ไม่ทราบว่ามีแหล่งงานที่ต้องการคนจบสาขานี้หรือไม่ ” (ผลิต ด๊อกเตอร์ อย่าเน้นปริมาณ Quantity should not replace quality in PhD graduates:ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ท่านได้เขียนไว้นานแล้วแต่ยังเข้ากับสถานะการณ์ในตอนนี้นะคะ )
ภาพจาก Ph.D. Hooding Ceremony
การเรียนปริญญาเอกสมัยนี้เป็นการเรียนแบบเหมาจ่ายค่ะ โดยเฉพาะการเรียนภาคพิเศษคุณจึงต้องเตรียมแหล่งทุน ให้เพียงพอ ไม่ใช่เฉพาะค่าหน่วยกิต ยังมีค่าศึกษาดูงานต่างประเทศอีก หลายคนหมดเงินไปเป็นล้านแล้วยังเรียนไม่จบก็มีนะคะ
ปัจจุบันเราจะพบเห็นคนที่จบปริญญาเอก(หลายคนเรียนจริง แต่อีกหลายคนไม่ได้เรียน)หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าดอกเตอร์กันมากมาย แต่เอ...แล้วทำไมบ้านเมืองของเราถึงไม่เจริญขึ้นกว่าเมื่อก่อนละคะ คุณคิดว่าพวกดอกเตอร์เหล่านี้น่าจะมาช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองในทางไหนได้บ้างและคุณคิดว่า...ดอกเตอร์แบบไหนกันแน่...ที่สังคมไทยต้องการ...
หากสนใจจะเป็นดอกเตอร์ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ
บันทึกที่น่าสนใจจาก Thai KM Network ค่ะ
บันทึกบอกเล่าประสบการณ์ของนักศึกษาปริญญาเอกจะได้ประกอบการตัดสินใจเข้าเรียนนะคะ
(^---^) Ph.D. IT Student Blog (^---^)
สวัสดีครับพี่อ๊อด
ผมก็กำลังจะสมัครเป็นศิษย์สำนักราม ป.โท กฎหมาย ก็คงจะนำเงินที่เก็บไว้ อดออมกับสิ่งยั่วยุ ต่าง ๆ ไปให้สถาบัน เพื่อแลกกับองค์ความรู้และความคิดที่กว้างขวางขึ้น
ไม่แน่ใจหรอกครับว่าจะร่ำเรียนไปทำอะไรนัก ก็ตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่แล้ว
ถ้าคิดแบบความหมายของการเป็นบัณฑิตที่พระพุทธเจ้าท่านสอน ก็ต้องคิดเพื่อคนอื่น คิดเพื่อประโยชน์ทั้งของเราของเขา อย่างบันทึกที่แล้วของพี่ที่เขียนไว้นั่นล่ะครับ
ผมเป็นบัณฑิตคนหนึ่ง เพราะผมคิดอยู่ได้เนือง ๆ นะครับว่า
"เรามีธรรมมีความรู้คู่ชีวา เราก้าวมาเพื่อก้าวไปรับใช้คน"
วรรคทองนี้ได้มาจาก สำนัก มสธ.นะครับเนี่ย
ใช่ครับ ดอกเตอร์ที่สังคมไทยหรือทั่วโลกนี้ต้องการก็น่าจะเป็นอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านสอน หรือเป็นอย่างวรรคทองด้านบน
"ศึกษาเพื่อมวลชน ใช่เพื่อตนหรือตราตี"
วรรคนี้จำที่มาไม่ได้ครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
น่าเป็นห่วงค่ะ...ถ้าเงินคือเป้าหมายและคือเครื่องมือที่นำสิ่งที่ต้องการมาให้ (ง่ายๆ)...
นักเรียนนอก (ระเบียง) มีเยอะ
ตอนนี้มีข่าวว่าหลายๆ สถาบันสามารถ "ผ่อน" ค่าเทอมได้ด้วย...ฮู้....โปรฯ สุดๆ
เพียงใช้เงินแลก...หรือบางรุ่นมีคุยต่อๆ กันมาว่าเอาไก่แลกมา...ก็จบได้
(ขอจองหลักสูตรมวยไทยศึกษาหนึ่งที่นั่งด้วยนะคะ)......อิ.อิ.
สวัสดีครับ
ความรู้ คือ ทางสว่าง สำหรับ Ph.D ในบ้านเรา ยังช่วยกระตุ้นความสว่าง(พัฒนาประเทศ)ไม่พอ ไม่ทราบว่าจบมาแล้วทำงานตรงกับเรื่องหรือสาขาที่เรียนมามากน้อยเท่าไร ถ้าตรงสาขาน่าจะพัฒนาได้ แต่ก็อาจจะมีปัจจัยภายนอก+ใน มารบกวน ถึงทำให้กวนประสาทไปเลยหรือเปล่าไม่ทราบ ผลงานวิชาการจึงน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงครับ
เข้าojklo6dfu8iy[ ดีครับ PhD.Thai Boxing
ขออภัย พิมพ์ผิดครับ
เข้าojklo6dfu8iy[ = น่าจะสนุกดีครับ
มีนักศึกษาเข้าเรียนเยอะมากเลยนะค่ะ (ดูจาก web) แสดงว่าเป็นหลักสูตรที่มีผู้นิยมมากเลยนะค่ะ แสดงว่า สมัยนี้คนไทยนิยมเรียนในระดับบัณฑิตศึกษามากขึ้น และมีตำแหน่งมากขึ้น...รึปล่าวค่ะ...เนื่องจากมีผู้สนใจมาก ไม่ทราบว่า อ.ที่ปรึกษาพอเพียงตามเกณฑ์ของ สกอ รึปล่าวค่ะ ...
สวัสดีครับ
ดอกเตอร์ที่เขียนๆ กันอยู่นี่แหละ น่ารักที่ซู้ดด
สังคมไทยเป็นสังคมที่มีค่านิยม ในการให้ความสำคัญกับบุคคลที่มีการศึกษาสูง มีปริญญามานานแล้วค่ะ
เพราะเชื่อว่าผู้ที่มีการศึกษาสูงเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ตลอดจนเป็นผู้ที่ได้รับการอบรม ขัดเกลานิสัย ตลอดจนมีการบ่มเพาะจริยธรรมมาเป็นอย่างดี
ตั้งแต่ 10ปีที่แล้วมา มีการขยายตัวของการจัดการศึกษา ในระดับปริญญาโท ต่อเนื่องไปจนถึงระดับปริญญาเอกมากขึ้นมากค่ะ
เลยมีการการตั้งคำถามกันว่า ว่ามหาวิทยาลัยต่างๆ กำลังทำการค้ากับการศึกษาหรือไม่ นักศึกษาที่ผลิตออกมามีคุณภาพเพียงพอหรือไม่
ทุกๆคนคงคาดหวัง ให้นักศึกษานำความรู้จากชั้นเรียนไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และยิ่งกว่านั้น ควรนำสิ่งที่เรียนรู้มาไปสร้างความรู้ใหม่ๆ ในมุมมองใหม่ๆ กล้าเปลี่ยนโลกทัศน์เดิม ๆ เพิ่มเติมด้วยค่ะ
ที่ดีที่สุดคือ บางคนอาจ บุกเบิกสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆได้ด้วยค่ะ
ไม่ใช่ ใช้แต่ความรู้เก่าๆ ซ้ำๆแต่กับที่เคยเรียนรู้มาแล้วอย่างเดียว
สวัสดีค่ะคุณน้อง naree suwan
ในบ้านเราด๊อกเตอร์ที่เก่งๆดีๆก็มีเยอะ
คนที่มีศักยภาพก็มีอีกเยอะ
อยู่ที่ว่าประเทศประชาธิปไตยนี้
ให้โอกาสทางการศึกษาแก่ประชากรของประเทศได้แค่ไหน
ตราบได้ที่เงินยังซื้อได้เกลือบทุกอย่าง
เด็กด้อยโอกาสทั้งบนดอยและกลางป่าลึกไม่ได้งึดหรืออิจฉาท่านๆด๊อกเตอร์ทั้งหลายหรอกครับ....มีแต่จะสรรเสริญท่านๆ ตราบใดที่ท่านสามารถนำความรูความสามารถมาสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคม แทนการมองหาโอกาสที่จะเอารัดเอาเปรียบผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า
(จากคนที่ได้รับปริญญามาตั้งแต่เกิด) หึหึ
สวัสดีครับ ขออนุญาต ลปรร ด้วยครับ
ตามความคิดเห็นของผมเองนะครับ ผมต้องการดอ็กเตอร์ที่สามารถพูดเรื่องความรู้ที่ได้เรียนมา กับ เรื่องชีวิตจริง ให้เป็นเรื่องเดียวกันครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะพี่สาว
โดยเฉพาะคนนี้
เห็นด้านหลังก็ยังจำได้นะค๊า
สวัสดีค่ะ อ.น้องอ๊อต
สวัสดีครับพี่อ๊อด
ตอนอ่านบันทึกรู้สึกเครียดครับ แก้ยากจริงๆครับ มันเป็นเรื่องของการลงทุน และผลประโยชน์
แต่มาขำสุดๆก็ตรงปริญญาเอก สาขาวิชามวยไทยศึกษา แถมรุ่นที่1 ด้วยนี่สิครับ น่ากลั้วน่ากลัวครับ
กลัวรุ่นหนึ่งนะครับ เพราะเป็นรุ่นบุกเบิก คงสะบักสะบอมกันน่าดูหละครับกว่าจะจบ
แต่ถ้าเป็นดุษฎีบัณฑิตทฤษฎีมวยไทยอย่างเดียว จบแล้วก็คงจะไม่มีใครเกรงครับ (คล้ายๆแก่วิชาแต่ต่อยไม่เป็น 5555)
แต่ถ้าหากเป็นดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์มวยไทย ก็อาจจะน่าเกรงขามสักหน่อยครับ เพราะคงเป็นนักมวยจริงๆ แท้ๆ ใช่หรือเปล่าครับ
สวัสดีครับ คุณ naree suwan
อุ้ย ไม่คุย ๆ ต่อ .. เรื่องมันยาว ครับ
ขอบคุณมาก ๆ เลยที่เปิดประเด็นนี้ ขอยกย่องเป็น "ประเด็นทอง" ครับ
แหม คุณ naree suwan :)
ว่าจะไม่ต่อแล้วนะครับ เนี่ย แว่บบบบ
สวัสดีค่ะ ป้าแดง อ้าวขำนามสกุล คนสวยแซ่เฮ อิอิ
แผนกลยุทธ์ |
1)
ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ ป้องกันตัวด้านมวยไทยในสถาบันการศึกษา
หน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง |
สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอบคุณที่ไปแวะและชวนมาอ่าน ไม่งั้นตกข่าว พลาดอ่านเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องสำคัญมากที่อาจารย์เขียนตีแผ่ให้ชัดแจ้ง พี่ไม่ค่อยอยากวิจารณ์มากเพราะเป็นคนบ้านนอก ชายขอบวิชาการน่ะค่ะ
ขอบคุณด้วยค่ะที่เห็นประโยชน์และสร้างลิงค์ไปที่บันทึกพี่
การศึกษาของบ้านเรา ... ขับเคลื่อนด้วย ทอง 1 บาท หรือครับ :)
วันนี้ ทองรูปพรรณ 15,000.- .. ทำลายสถิติโลกกันไปแล้ว อิ อิ
แวะมาเที่ยวอีกแล้วครับ ไม่เลิกรา :)
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาลุ่มน้ำโขงและสาละวินศึกษา
• สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโททุกสาขาที่ผ่านการทำวิทยานิพนธ์จากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน คณะกรรมการการอุดมศึกษา และสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ให้การรับรอง
• มีความสามารถสื่อสารกับชนชาติใด ๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และหรือภูมิภาคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย อย่างน้อย 1 ภาษา
• หากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ที่ไม่ได้ผ่านการทำวิทยานิพนธ์และหรือขาดคุณสมบัติข้างต้น จะต้องมีประสบการณ์ทำงานวิจัยหรือจัดกิจกรรมด้านการพัฒนาท้องถิ่น และมีความสามารถ มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในระดับดี
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาผู้นำทางการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
• สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการบริหารการศึกษาหรือสาขาอื่นที่สัมพันธ์จากสถาบันที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน คณะกรรมการการอุดมศึกษา และสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ให้การรับรอง
• มีประสบการณ์ในการบริหารการศึกษาไม่น้อยกว่า 3 ปี และมีคุณสมบัติอื่นๆ ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการศึกษา
ระดับปริญญาเอก
ภาคปกติ เหมาจ่ายภาคเรียนละ 40,000 บาท
ภาคพิเศษ เหมาจ่ายภาคเรียนละ 50,000 บาท
สวัสดีค่ะ
- อยากได้ด๊อกเตอร์ ที่สุดยอด ทั้ง ความรู้ ความประพฤติดี
- บางคนว่า ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด
- รู้แต่หนังสือ แต่ไม่รู้จักความ
( แอบระบายนิด ๆ ค่ะ )
แวะมาเยี่ยมด้วยความระลึกถึงค่ะ
หวัดดีค่ะ...พี่อ็อดที่คิดถึง
สวัสดีค่ะคุณNaree ที่น่ารัก
..สงสัยมานานแล้วค่ะ..ต่างกับบ้านเรา..อิๆๆ..
สุดท้ายแล้ว เชื่อว่า "ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน"ค่ะ..คำนำหน้าชื่อนั้น"สำคัญ..ไฉน"...อิ..ๆๆ...
ด้วยรักจากใจยายหมูอ้วนเอง
. otd
สวัสดีค่ะคุณหมูอ้วน อิอิคนไทยเจ้ายศเจ้าอย่างยึดติดตำแหน่งค่ะแต่ฝรั่งเขานับถือกันที่ผลงานมากกว่า
สวัสดีครับพี่นารี
สบายดีไหมครับพี่ เห็นบันทึกมาหลายครั้งแล้วครับ แต่ไม่ได้มานั่งอ่านจริงๆ ตลอดทั้งหมดครับ วันนี้อ่านหมดแล้วครับ และได้ข้อสรุปที่อยากได้ตามแบบที่ตัวผมต้องการนะครับ ซึ่งอาจจะไม่ใช่แบบที่สังคมไทยต้องการก็ได้ครับ
ขอบคุณมากครับพี่
สวัสดีค่ะ..อาจารย์นารี
ไม้ได้เข้ามาทักทายนานแล้ว..อาจารย์สบายดีหรือยังคะ
อ่านบันทึกนี้รวมทุกความคิดเห็นอย่างละเอียดเชียวค่ะ..รวม ๒ รอบแล้ว
เห็นด้วยกับทุกความคิดค่ะ..โดยเฉพาะท่านดร.ข้างบนนี้..ท่านเก่งมากในเรื่องราวของชีวิต
ทำให้..ได้คิด..ค่ะ
ขอบคุณอาจารย์นารีมากค่ะ..ที่เปิดประเด็นนี้
สวัสดีค่ะ...พี่อ็อด
สงสารน้องต้อม โดน ต้อมน้ำพริก ฮ่าๆๆ ดีนะไม่ใช่ต้อมปลาร้า ฮ่าๆๆ
แป่ววว..ว...
บันทึกนี้ พี่ครูวุฒิมิบังอาจออกความเห็น
เพราะแค่ ป.โท ยังบ่มีปัญญาเฮียน
แล้วจะเอาอิหยังมาเฮียน ดร.
เฮียนปลูกไผ่ เลี้ยงปลาบู่ ไปวันๆเท่าที่เป็นอยู่ก็เอาแล้วววว...อิอิ...
สวัสดีครับ
หวัดดีค่ะ...พี่อ็อด
. ยืมจมูกหายใจ
ธ.วั ช ชั ย
สวัสดีค่ะน้องธวัชชัย
อ้าวส่งเสื้อสีส้มไปซักหรือค่ะ
หุหุ จำไม่ได้เลย มาถึงมีแซว
ยังๆไม่ลาบวชแต่ใกล้แย้ว
พี่รออยู่ว่าเมื่อไหร่เขาจะให้ผู้หญิงลาบวชได้สัก 3 เดือนบ้างจะได้ลา ฮ่าๆๆ
ก็สิทธิ์ลาคลอด 3 เดือน พี่อดใช้สิทธิ์แล้วนี่นา อิอิ
สวัสดีครับ
เห็นผู้รู้เต็มบันทึกเลยครับ อย่างนี้เรียกว่าคุณภาพคับบล็อก อิอิ
สุขภาพแข็งแรงๆนะครับ :)
สวัสดีครับ
ชีวิต เป็นเช่นนั้นเอง ครับ ขึ้นอยู่กับว่า เราชอบด้านไหนของเหรียญ ครับ เลือกเองครับ ไม่มีผิด ไมมีถูก ครับ
สวัสดีครับ
ลองหาแผ่นdvd มาดู ครับ โลกนี่เปลี่ยนไปจากเดิม ครับ
อาจารย์เป็นไงบ้าง หายหรือยังคะ ไม่เห็นมีข่าวว่า ไปหาหมออีก คงจะหายแล้ว ขอให้สุขภาพสมบูรณ์นะคะ เป็นห่วงค่ะ
เสนอได้ดีเหลือเกิน ขออนุญาตเอาไปขยายต่อ
สวัสดีครับพี่นารี
ห่างหายไปหาปลาในทะเลมาหลายวันครับ เข้ามาก็ได้คิดเลยครับ
พี่ตั้งใจจริงๆน้องก็ขอสนับสนุนให้ประสบความสำเร็จทุกประการครับ
แต่เอ คนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษจะเป็นด๊อกเตอร์ได้หรือเปล่าครับ
แล้วคนที่ไปเรียนต่างประเทศมาเค้าเก่งภาษากันทุกคนหรือเปล่าครับ แล้วเค้าจะเข้าใจเท่ากับเจ้าของภาษาหรือเปล่าครับ กลับมาเลยอาจจะสับสนหรือเปล่าครับ
เห็นด้วยกับหลายๆท่านที่เสียดายเงิน แต่การได้เปิดหูเปิดตาบ้างก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์จริงหรือเปล่าครับ ทุกอย่างในโลกนี้มีสองด้านจริงๆครับ
แล้วถ้าชาวต่างชาติเข้ามาศึกษาด๊อกเตอร์วิชามวยไทยศึกษา เราจะบังคับให้เค้าเรียนภาษาไทยก่อนดีไหมครับ เอาคืนบ้าง ทีเราจะเรียนของเค้ายังต้องปรับพื้นฐานภาษา คราวนี้เอาให้หนักแบบภาษามวยชั้นเชิง(เอก) ฮาๆๆๆๆ (แล้วเค้าจะอยากศึกษาหรือเปล่าเนี้ยะ เราตั้งกาดไว้ก่อนแล้ว สวัสดีครับ)
หวัดดีค่ะ...พี่อ็อดที่คิดถึง
หวัดดีค่ะพี่
สวัสดีคะพี่อ๊อด อาการเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ไม่ได้ไปหาเลย
สงกรานต์นี้ไปเที่ยวไหนคะ อย่าหักโหมงานมากนะคะ
ว่างไปออกกำลังกายกันไหมคะ..
เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่าคนเห่อใช้ ดร.แต่บางคนก็มีความเป็นอย่างนี้อาจารย์ว่าครับ
หวัดดีค่ะ...น้องอ้อย
Lioness_ann
หวัดดีค่ะน้องครูแอน
เข้ามาเยี่ยมอ่านเรื่องราวต่างๆที่คุณเขียน ตอนนี้ว่างเพราะปิดเทอมแต่ก็ยังมีกิจกรรมและเรียนซัมเมอร์อยู่ เหลือปีนี้ก็จบตรีแล้วคะ ไม่รู้จะจบหรือเปล่า แต่ก็อดทนเอา เรียนเพิ่มวุฒิคะ แก่แล้สแก่เลย มีความเห็นเช่นเดียวกับอาจารย์โกศล คงสมปราชญ์ และสนับสนุนบทความ เรียนก็ขอให้ได้นำไปใช้ประโยชน์จริงๆ ที่เรียนอยู่ขณะนี้ก้เป็นภาคพิเศษเรียนแค่เสาร์อาทิตย์ ทั้งเรียนทั้งทำงาน ผู้ด้อยโอกาสได้เป็นผู้ได้โอกาศ ก็เลยรีบไขว่คว้า
ก็มีทั้งคนตั้งใจจริงๆ และคนที่ไม่ตั้งใจแต่อยากได้ปริญญาก็มีจริงๆ
ก็กำลังสังเกตอยู่เหมือนกัน ว่าเรียนลักษณะอย่างนี้ จะไดเประโยชน์แค่ไหน ก็ลงทุนไปสมัครเรียน เพื่อการศึกษาในจุดนี้ว่า จะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ต่อชุมชนอย่างแท้จริง เพราะเป็นรุ่นบุกเบิก และสาขานี้ ก็เป็นสาขาที่แต่ก่อนไปรวมกับสาขาอื่นๆ ไม่เน้น แต่ตอนนี้แยกออกมาโดดๆเลย เกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่น จะดูว่าได้แค่ไหน
ก็มีกติกาว่า ต่อไปนี้ ผู้แทนชุมชนตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่บ้านขึ้นไป ต้องจบปริญญษตรี
ฉะนั้นที่เรียนอยู่ขณะนี้ ก็มีผู้นำท้องถิ่น เกือบทุกระดับมาเรียนกัน คอยดูตอนจบ
เห็น คำนี้ แล้ว เปรี้ยวปากอยากได้ มาประดับบ้าง
แต่คงนาน.........
ดอกเตอร์แบบไหนที่สังคมไทยต้องการ???????.......ไม่รู้สิคะ แต่ถ้าถามต้อม ก็ตอบได้เลยว่า..แบบคนนี้ค่ะ
...อยากเห็นคนนี้สวมครุย
อิ อิ
ก็อยากจะสวมเสื้อครุยอยู่เหมือนกัน แต่เพราะอารมณ์ไม่เสถียร..ก็เลยคิดว่าต้องเรียนไปไม่ถึงไหนแน่ๆ ยิ่งสมองเบลอๆ เลอะๆ แบบนี้ อาจมองอาจารย์ตาขวาง..โมโหขึ้นมาเดินออกจากห้องเรียนเฉย
มอบปริญญาใบไม้..ให้น้องดีกว่าเนอะ ^^
ต้อมไม่เคยเอากระปุกมาให้เลยใช่ไหม? งั้นวันนี้..ได้มีล่ะ ^^
ปริญาใบไม้ << ปริญญา
ตอนเด็กๆ เคยได้ยินมาน่ะค่ะ กับคำว่า "ปริญญาใบไม้" ที่มีใครพูดถึงคำนี้ก็เพราะเขาไม่ได้รับปริญญาใดๆ มาเลย หากแต่เขาก็ใช้ชีวิตและเรียนรู้อะไรมากมายเกินกว่าที่จพหาได้จากในห้องเรียน ต้อมชอบจังค่ะ ^^
ต้อมก็คิดเรื่องเรียนต่อหลายครั้งเหมือนกัน แต่ดูปัจจัยและบริบทใดๆ แล้วเห็นจะไม่เหมาะน่ะค่ะ ถึงยังไง..ต้อมก็เรียนรู้นอกห้องได้..ใช่ไหมคะ?
น้องต้อมยอมให้ปรับจ๊ะ
บางทีมือเร็วไปหน่อย
ดีแล้วจะได้เขียนให้ถูก
นึกถึงใบไม้ในกำมือค่ะ
พระพุทธองค์เคยตรัสไว้ใบไม้มีมากมายในป่า
เราต่างแสวงหาใบไม้มาประดับบารมี
ที่สุดแล้วทักษะชีวิตต่างหากที่จะให้เราผ่านพ้นห้วงแห่งทุกข์
การศึกษาในระบบเป็นเพียงใบเบิกทาง
แต่ไม่ได้บ่งบอกหรอกนะคะว่าเขาคนนั้นเป็นคนอย่างไร
คนเพียบ ... จึ่งแวะมาเยี่ยมบันทึกอาจารย์ และฝากร่องรอยเสียหน่อย ครับ ... สู่ฝัน นิรันดร นะครับ ... ดอรอที่พึงประสงค์ :)
เดิมไม่เคยคิดอยากเรียน ป.เอกเรียน แต่วันนี้คิด ด้วยว่ามีคนเชียร์ด้วยคนเหล่านั้นเขาเชื่อว่าเราทำได้ และเราก็บ้ายอด้วยดิ...อิอิ
แต่เห็นต้นทุนแล้ว...กลับมาคิดใหม่ว่าลงทุนไปแล้วจะได้อะร
บันทึกนี้จึงเป็นประโยชน์มากในความหลากหลายของแนวคิด
ตามมาอ่านครับผม ข้อมูล ความรู้ ข้อคิด มากมาย ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ
ดอกเตอร์ที่เขียนๆ กันอยู่นี่แหละ น่ารักที่ซู้ดด